Ed Sheeran Divide World Tour 2019 | Fans
ดูภาพอัลบัม 1. http://eazyfm.becteroradio.com/gallery/11201/ed-sheeran-divide-world-tour-2019
ดูภาพอัลบัม 2. http://eazyfm.becteroradio.com/gallery/11202/ed-sheeran-divide-world-tour-2019-one-ok-rock
กลับมามอบความสุขและความประทับใจให้แฟนเพลงในเมืองไทยอีกครั้ง สำหรับศิลปินหนุ่มซูเปอร์สตาร์ "เอ็ด ชีแรน" (Ed Sheeran) ที่หิ้วกีตาร์ และ ลูป เพดัล พร้อมขนคลังเพลงฮิตที่ฟังไม่เบื่อ มาโชว์ให้แฟนเพลงได้ร้องและโยกตามเต็มอิ่มใน "เอ็ด ชีแรน ดีไวด์ เวิลด์ ทัวร์ 2019" (Ed Sheeran Divide World Tour 2019) เมื่อช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ โดยมีวงร็อกแถวหน้าของญี่ปุ่นอย่าง วัน โอเค ร็อก (ONE OK ROCK) เป็นแขกรับเชิญพิเศษเล่นเปิดเวที จัดโดย ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี-เทโร (Live Nation BEC-Tero) และ เออีจี พรีเซ้นท์ส (AEG Presents)
แม้รถจะติดอากาศจะร้อนปรอทแตก แต่แฟนเพลงทั้งไทยและเทศก็ไม่หวั่นทยอยหลั่งไหลมาถึงสนามกีฬากันตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อรอเข้าไปจับจองพื้นที่ความมันส์ก่อนใครก่อนจะถึงเวลาช่วงหัวค่ำวอร์มอัพไปพร้อมๆ กันท่ามกลางอากาศที่ยังร้อนระอุกับกลุ่มศิลปินรับเชิญสุดพิเศษเปี่ยมพรสวรรค์จากญี่ปุ่นวัน โอเค ร็อก (ONE OK ROCK) ที่ขนเพลงฮิตมาให้แฟนเพลงได้ฟังและได้มันส์เต็มอิ่มไม่ว่าจะเป็น พุชแบ็ค (Push Back), ดีปเพอร์ดีปเพอร์ (Deeper Deeper), คล็อคสไตรค์ (Clock Strikes), เฮดไฮ (Head High), แสตนด์เอาท์ทู ฟิทอิน (Stand Out to Fit In), เดอะบีกินนิ่ง (The Beginning), ไมท์ตี้ลอง ฟอล (Mighty Long Fall) และเวสเทดไนท์ (Wasted Night)
จากนั้นก็ถึงเวลาที่แฟนเพลงทุกคนรอคอยเสียงกรี๊ดต้อนรับดังกระหึ่มสนามราชมังคลาฯเมื่อภาพของหนุ่มไอริชซูเปอร์สตาร์ เอ็ด ชีแรน ที่กำลังเดินขึ้นเวที ปรากฏบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ก่อนเขาจะเปิดเวทีพร้อมกีตาร์คู่ใจด้วยเพลงฮิตจากอัลบั้ม ดีไวด์ (÷) ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองในเพลงคาสเซิลออน เดอะฮิล (Castle on the Hill) และ อีเรเซอร์ (Eraser) ต่อด้วยซิงเกิ้ลจากสตูดิโออัลบั้มแรกที่ฮิตติดชาร์ทอย่าง ดิ เอทีม (The A Team) ปรับจังหวะให้เร็วขึ้นด้วยด้อนท์ (Don't), นิวแมน (New Man), ไดฟ์ (Dive), บลัด สตรีม (Blood Stream), เลิฟยัวร์เซลฟ์ (Love Yourself) และ เทเนรีฟซี (Tenerife Sea) จากนั้นสะบัดกีตาร์เล่นเมดเลย์ยาวๆทั้ง เลโก้เฮ้าส์ (Lego House), คิสมี (Kiss Me) และกิฟ มีเลิฟ (Give Me Love) ก่อนเร่งจังหวะให้สนุกขึ้นอีกครั้งด้วยเพลงกัลเวย์เกิร์ล (Galway Girl) ต่อด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์แนวมหากาพย์แฟนตาซีเดอะ ฮอบบิท (The Hobbit) ที่เอ็ดแต่งและโปรดิวซ์ด้วยตัวเองกับเพลงไอ ซีไฟเออร์ (I See Fire) จากนั้นปรับมู้ดของคนดูไปยังเพลงรักที่เขาถนัดอีกครั้งด้วยธิงกิ้งเอาท์ลาวด์ (Thinking Out Loud), วัน (One), โฟโต้กราฟ (Photograph) และ เพอร์เฟคท์ (Perfect) ก่อนที่ช่วงท้ายจะหยิบเพลงที่มีกลิ่นอายของเพลงไอริชดั้งเดิมอย่างแนนซี่ มัลลิแกน (Nancy Mulligan) มาเล่นและต่อด้วยเพลงที่ชวนให้ทุกคนลุกขึ้นเต้นอย่างซิง (Sing) ก่อนจะอังกอร์ด้วยเพลงฮิตที่ทุกคนรอคอยอย่างเชป ออฟยู (Shape of You) และ ยูนีด มี, ไอ ด้อนท์นีด ยู (You Need Me, I Don't Need You) ปิดฉากคอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งที่ 2 ของเขาได้อย่างประทับใจ